อัปเดตเมื่อ 12 ก.พ. 2563

ถามจริง เติมคางคืออะไร ?
เติมคาง เป็นการฉีดฟิลเลอร์ไปยังบริเวณที่คางตัด หน้าสั้น ฉีดแล้วทำให้คางดูยาว ส่งผลให้หน้าดูเรียวขึ้น ซึ่งจะเห็นผลทันทีหลังฉีด ถ้าส่องกระจกแล้วอยากได้เรียวอีก ก็สามารถฉีดเติมได้ตามกำลังทรัพย์จนกว่าจะพอใจ
"หน้าเรียวสวยแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องพักฟื้น"
เอาดีๆ ฟิลเลอร์คางอันตรายไหมเอ่ย ?
ไม่เลย ไม่อันตรายเลย ความจริงแล้วการเติมคางด้วยฟิลเลอร์ ถือได้ว่าเป็นบริเวณที่ปลอดภัยมากเมื่อเทียบกับการเติมในบริเวณอื่นๆ เนื่องจากแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ใต้ก้อนกล้ามเนื้อบริเวณคาง

ซึ่งคางเนี่ย เป็นจุดที่ไม่มีเส้นเลือดสำคัญ ทำให้มีความปลอดภัยสูงมากกก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็น Hyaluronic Acid ก็สามารถวางใจ สวยแบบหายห่วงได้เลย
อีกข้อดีหนึ่งของตัวฟิลเลอร์คือเป็นสารเติมเต็มที่สลายได้ ทำให้หลังฉีดสามารถปรับแต่งได้ แก้ไขได้ตามที่ต้องการ หรือถ้าหากไม่ชอบจริงๆ ก็สามารถฉีดสลายได้ทันทีโดยที่ไม่ทำให้รูปคางเปลี่ยนไปแบบถาวร
หลังฉีดต้องขูดออกไหม จะสลายเมื่อไหร่ ?
ปกติแล้วหากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านมาตรฐาน อย. ในประเทศไทย จะเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่สลายหมด อยู่ได้ประมาณ 8 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับ
บริเวณที่ฉีด
ประเภทฟิลเลอร์ที่ใช้
การดูแลหลังฉีดของแต่ละคน
โดยหลังจากนั้นฟิลเลอร์ก็จะสลายจนหมด ไม่มีเหลือตกค้าง
สรุปแล้วถ้าจะเสริมคางต้องขูดหรือเปล่า ?
ไม่ต้องขูด ขีดเส้นใต้ ไม่ต้องขูดดดดดด เพราะฟิลเลอร์สลายหมดเกลี้ยงภายใน 1 ปี ส่วนศัลยกรรมเสริมคางก็ควรรอประมาณ 2 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายสลายไปหมดแล้วจริงๆ หลังจากนั้นก็กริ๊งกร๊าง โทรนัดแพทย์ศัลยกรรมได้เลย

ลังเลจังเอาไงดี เสริมคางไปเลยหรือฉีดคางดี ?
จริงๆ แล้ว ทั้ง 2 วิธีก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป
การผ่าตัดเสริมคาง ข้อดีก็คืออยู่ถาวร ทำครั้งเดียว จ่ายเงินครั้งเดียวก็มีคางต่อไปยาวๆ ได้เลย แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่ต้องพักฟื้นหลังผ่าตัด หรือถ้าเกิดว่าผ่าแล้วไม่ชอบก็อาจจะต้องผ่าเปลี่ยน ต้องเจ็บตัวอีกครั้ง อีกอย่างนึงคางจากศัลยกรรมพลาสติกจะเป็นซิลิโคนแข็งๆ เวลาจับจะรู้สึกได้เลยทันทีว่าไม่ใช่เนื้อจริง ถ้าใครชอบความนุ่มนิ่มอาจจะต้องพิจารณาปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ ข้อดีคือ สวยเลยหลังทำไม่มีแผลผ่าตัด ไม่มีพักฟื้น หลังฉีดไปแล้วถ้าไม่ชอบก็ฉีดปรับ หรือสลายได้ทันที ไม่มีตกค้าง เมื่อคางสวยเข้ารูปดีใน 2 สัปดาห์ จับดูแล้วก็จะไม่รู้ว่าเป็นฟิลเลอร์เลยเนื่องจากเนื้อจะเนียนนิ่มเข้ากับคาง จับๆ คลำๆ จะไม่รู้เลยว่าฉีดฟิลเลอร์คางมา ข้อเสียก็อาจจะเกิดอาการช้ำได้บ้างในบางคน แต่จะหายเองได้ใน 7 - 14 วันโดยไม่มีไม่อันตราย ข้อเสียอีกอย่างคืออยู่ได้ไม่นาน เปลืองทรัพย์ต้องกลับมาฉีดเรื่อยๆ
"สรุปแล้วใครใคร่ฉีด ฉีด ใครใครเสริม เสริม"
ขึ้นอยู่กับการพิจารณา บางคนกลัวการศัลยกรรม กลัวเลือด ไม่อยากพักฟื้น อยากสวยทันที ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินที่อาจจะต้องฉีดซ้ำทุกปี ก็อาจจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใครที่หวังผลถาวรไม่อยากเสียเงินหลายรอบ กลัวการฉีด กลัวยาไม่แท้ อยากเจ็บแต่จบ ก็เลือกศัลยกรรม
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ทั้งสองอย่างนี้ก็มีความเสี่ยงในตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นจะเลือกฉีดหรือเสริมที่ไหน อย่าลืมศึกษาหาข้อมูลให้ดีๆ เลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีใบรับรองสถานประกอบพยาบาล มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และสามารถตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ /ซิลิโคนเสริมคางแท้ได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการทำหัตถการไปได้มาก
ฉีดฟิลเลอร์คางที่ Aura Bangkok Clinic ดีอย่างไร ?
ที่คลินิกของเรา เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ไทยแล้วทุกตัว โดยตัวหลักๆ ที่นำมาเติมคางได้นั้น ก็จะมี Juvederm จากอเมริกา และ Neuramis จากเกาหลี
โดยก่อนฉีดแพทย์จะแนะนำตัวยา โดยจะแกะกล่องและเปิดตัวยาต่อหน้าทุกครั้ง และเราสามารถตรวจสอบเลข lot วันหมดอายุ และสามารถนำกล่องกลับไปตรวจสอบได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องฟิลเลอร์ปลอม รวมถึงทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญของทางคลินิกที่จะสามารถช่วยให้เราสวยได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
ก่อน - หลัง ฉีดฟิลเลอร์คาง
#ขายของนิดนึง เติมคางกับ Aura Bangkok Clinic
Neuramis เกาหลี 7,500/cc
Juvederm อเมริกา 12,990/cc
